ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน
บริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด
THE FACTORS AFFECTING HAPPINESS AND QUALITY OF WORK LIFE OF EMPLOYEES AT MANEEDANG GLOBAL BY YOU NAI PLUS CO., LTD.
อภิชาติ ฉิมเนียม
APICHAT CHIMNIAM
อาจารย์ที่ปรึกษา ดร.ธนชาติ ประทุมสวัสดิ์
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
Graduate students of Master of Arts Faculty of Liberal Arts, Krirk University
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด และ 2) เปรียบเทียบความแตกต่างของปัจจัยดังกล่าว จำแนกตามลักษณะส่วนบุคคล การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงาน 85 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตามตารางของ Krejcie และ Morgan เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และมีค่าความเชื่อมั่นของ Cronbach’s Alpha เท่ากับ 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติอนุมาน ได้แก่ t-test และ ANOVA
ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานอยู่ในระดับมาก (M = 3.94, SD = 0.156) โดยปัจจัยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ภาวะอิสระจากงาน (M = 4.21) รองลงมา คือ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย (M = 4.19) และสังคมสัมพันธ์ (M = 4.07) ตามลำดับ ในขณะที่ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ความสุขในการทำงาน (M = 3.43) อย่างไรก็ตาม พบความแตกต่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในบางปัจจัยเมื่อตัดตามลักษณะส่วนบุคคล
ข้อเสนอแนะจากผลการศึกษา คือ องค์กรควรส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อต่อความปลอดภัย ให้พนักงานมีอิสระในการปฏิบัติงาน และส่งเสริมกิจกรรมสานสัมพันธ์ภายในองค์กร เพื่อยกระดับความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในระยะยาว
คำสำคัญ: ความสุขในการทำงาน คุณภาพชีวิต สภาพแวดล้อมองค์กร
Abstract
This research aimed to 1) examine the factors influencing employee happiness and quality of work life at Manee Daeng Global by Uniplus Co., Ltd., and 2) compare these factors across demographic variables. The study employed a survey research design with a sample of 85 employees selected using Krejcie and Morgan’s table. Data were collected using a five – point Likert scale questionnaire, validated by experts, with a reliability coefficient (Cronbach’s Alpha) of 0.85. Descriptive statistics, t-test, and one-way ANOVA were used to analyze the data.
Findings indicated that overall, factors affecting employee happiness and work-life quality were rated at a high level (M = 3.94, SD = 0.156). The highest-rated factor was work autonomy (M = 4.21), followed by a safe working environment (M = 4.19) and social relationships (M = 4.07). The lowest-rated dimension was job satisfaction (M = 3.43). Significant differences were found in some dimensions when compared across demographic characteristics.
It is recommended that the company should enhance physical and psychological safety, provide greater autonomy in work processes, and foster interpersonal engagement activities. These strategies will sustainably improve employees’ happiness and overall work-life quality.
Keywords: Job Happiness, Quality of Work Life, Organizational Environment
บทนำ
ในปัจจุบันความสำคัญของคน ในองค์กรถือว่า คนเป็นทรัพยากรที่มีค่า จึงเกิดคำว่า การบริหารทรัพยากรบุคคลขึ้น หรือในบางองค์การมองไปไกล กล่าวคือ มองเห็นว่า คนเป็นต้นทุนที่สำคัญขององค์การ จึงเกิดคำใหม่ขึ้นมาว่การบริหารทรัพยากรบุคคลที่เป็นต้นทุน หรือการบริหารทุนมนุษย์ หรือ Human Capital Management (Becker, Huselid, & Ulrich, 2001) ดังนั้น การส่งเสริมให้บุคลากรมีความสุขในการทำงานด้วยเหตุผลที่ว่า การที่บุคลากรมีความสุขในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จขององค์กรในอนาคต ความพึงพอใจในการทำงานเป็นความรู้สึกรวมของบุคคลที่มีต่อการทำงานในทางบวก เป็นความสุขของบุคคลที่เกิดจากการปฏิบัติงาน และได้รับผลตอบแทน คือ ผลที่เป็นความพึงพอใจที่ทำให้บุคคลเกิดความรู้สึกกระตือรือร้นมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานนั้น ๆ เกิดขวัญและกำลังใจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Locke (1976) ที่ระบุว่า ความพึงพอใจในการทำงานเกิดจากการรับรู้ว่า การทำงานนั้นสอดคล้องกับค่านิยมส่วนบุคคลการเป็นองค์กรแห่งความสุขได้อย่างยั่งยืน ต้องมีนโยบาย และกิจกรรมในการพัฒนาบุคลากร เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิต สมดุลชีวิต ทั้งชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว เช่น มีกิจกรรมพัฒนาสมอง พัฒนาครอบครัว พัฒนาคุณค่าในตัวพนักงาน (Harter, Schmidt, & Keyes, 2003) ผู้บริหารต้องให้การสนับสนุนที่ดีความสุขในการทำงาน เป็นสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เป็นลักษณะอารมณ์ทางบวก เกิดจากการรับรู้สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกเป็นสุข (Diener, 2000) การทำงานอย่างมีความสุขเป็นความมุ่งหมายหนึ่งในชีวิตของเราทุกคน โดยแท้จริงแล้ว งานเป็นวิถีทางอันมีค่าสำหรับการแสวงหาความสุขใจอย่างลึกซึ้งในการมีชีวิต การทำให้พนักงานทุกคนมีคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีก็เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน โดยคุณภาพชีวิตการทำงานเป็นลักษณะการทำงานที่ตอบสนองความต้องการของบุคคล (Hackman & Oldham, 1976) ซึ่งวัดได้จากเกณฑ์ชี้ เช่น คือ ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม
ทรัพยากรบุคคลจึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในองค์การ เป้าหมายของผลลัพธ์ด้านทรัพยากรบุคคลแบ่งเป็น 2 เป้าหมาย คือ พนักงานและองค์การ ชีวิตที่ดีของพนักงานผ่านกิจกรรมต่าง ๆ จนช่วยให้พนักงานดำเนินชีวิตได้อย่างสมดุล และเกิดเป็นองค์กรแห่งความสุข ย่อมส่งผลให้พนักงานขององค์กรร่วมมือกันผลิตผลงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพตามความต้องการของลูกค้า องค์กรมีศักยภาพในการแข่งขัน ทำให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน องค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) เป็นองค์กรที่มีกระบวนการพัฒนาคนในองค์กรอย่างมีเป้าหมายและยุทธศาสตร์สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร มุ่งเน้นให้พนักงานอยู่ร่วมกัน และทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุข สามารถผลิตสินค้า และบริการตามที่ลูกค้าต้องการ ด้วยความคิดสร้างสรรค์จนเกิดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น การเป็นองค์กรแห่งความสุขได้อย่างยั่งยืน ต้องมีนโยบาย และกิจกรรมในการพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิต สมดุลชีวิต ทั้งชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว เช่น มีกิจกรรมพัฒนาสมอง พัฒนาครอบครัว พัฒนาคุณค่าในตัวพนักงานผู้บริหารต้องให้การสนับสนุนที่ดี หัวหน้างานขึ้นไปจนถึงผู้บริหารทุกระดับต้องเป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรม และให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม ความสุขในการทำงาน เป็นสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เป็นลักษณะอารมณ์ทางบวก เกิดจากการรับรู้สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกเป็นสุข การทำงานอย่างมีความสุขเป็นความมุ่งหมายหนึ่งในชีวิตของเราทุกคน โดยแท้จริงแล้ว งานเป็นวิถีทางอันมีค่าสำหรับการแสวงหาความสุขใจอย่างลึกซึ้งในการมีชีวิต เนื่องจาก งานเป็นแหล่งให้เกิดความงอกงาม เป็นโอกาสให้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเองมากขึ้น ทั้งยังช่วยเอื้ออำนวยให้เกิดความสัมพันธ์อันมีค่าในการอยู่ร่วมกันอีกด้วย ในส่วนของการทำให้พนักงานทุกคน มีคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีก็เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน โดยคุณภาพชีวิตการทำงานเป็นลักษณะการทำงานที่ตอบสนองความต้องการของบุคคล โดยพิจารณาคุณลักษณะความเป็นบุคคล สภาพตัวบุคคล และเรื่องขององค์การที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ ซึ่งวัดได้จากเกณฑ์ชี้ เช่น คือ ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม สภาพการทำงานที่มีความปลอดภัย และส่งเสริมสุขภาพ ความมั่นคง และความก้าวหน้าในการทำงานโอกาสพัฒนาศักยภาพของตน การทำงานร่วมกัน และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น สิทธิส่วนบุคคล จังหวะชีวิต และความเป็นประโยชน์ต่อสังคม และมิใช่กำหนดแค่เวลาในการทำงาน หรือมีเพียงกฎหมายคุ้มครองแรงงานเด็ก หรือการจ่ายค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเท่านั้น แต่มีความหมายรวมไปถึงความต้องการของบุคลากรในหน่วยงานที่ดีขึ้น ดังนั้น การเสริมสร้างความสุขในการทำงาน และการสร้างคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีให้แก่พนักงาน จึงเป็นสิ่งจำเป็น ส่งผลให้การทำงาน และผลงานออกมาดี มีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เกิดความภาคภูมิใจในตนเองและทำให้หน่วยงานก้าวหน้าไปด้วยเช่นกัน
จากเหตุผลดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงมีความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด การสร้างคุณภาพชีวิตการทำงาน เป็นสิ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญอย่างยิ่ง คุณภาพชีวิตการทำงานในลักษณะของความพึงพอใจในการทำงานนั้น จะส่งผลต่อการปฏิบัติงาน และยังเป็นสิ่งจูงใจให้เกิดความต้องการทำงาน ซึ่งนำไปสู่ประสิทธิภาพ และเกิดการเพิ่มผลผลิตของบริษัท หรือองค์การในที่สุด เรียกได้ว่า บรรลุเป้าหมายของทั้งบุคคลในฐานะสมาชิกขององค์การ และตัวองค์การเอง
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1 เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด
2 เพื่อเปรียบเทียบระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามลักษณะส่วนบุคคล
ประโยชน์ที่ได้รับ
1 ทราบระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด
2 ทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด
3 สามารถนำข้อมูลไปเป็นแนวทางในการพัฒนาความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน บริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด
กรอบแนวคิดสำหรับการวิจัย
วิธีดำเนินการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ จากพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ พนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำนวน 100 คน เก็บตัวอย่างโดยใช้ตารางกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของ เครซี่ (Krejcie) และมอร์แกน (Morgan) (Krejcie & Morgan, 1970) ได้ขนาดตัวอย่างจำนวน 85คน เป็นชาย 19 คน หญิง 66 คน การสร้างเครื่องมือและการตรวจสอบเครื่องมือ
การสร้างเครื่องมือ ผู้ศึกษาได้ศึกษา แนวคิด ทฤษฎี และค้นคว้า จากงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วทำการร่างเป็นแบบสอบถาม โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1 ศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร ตำรา และผลงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการสร้างแบบสอบถาม 2 จัดทำร่างแบบสอบถาม นำเสนออาจารย์ที่ปรึกษา 3 นำแบบสอบถามมาปรับปรุงแก้ไข และเพิ่มเติมตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา 4 นำแบบสอบถามที่ปรับปรุงแล้ว เสนออาจารย์ที่ปรึกษาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นดำเนินการจัดทำเป็นแบบสอบถาม 5 ตรวจสอบความเที่ยงตรงและนำแบบสอบถามที่ปรับปรุงแล้วไปทดสอบใช้ (Try out) กับลูกค้าไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน แล้วนำไปวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม โดยใช้วิธีหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบัค (Cronbach, 1951) ได้ค่าเท่ากับ 0.85
การเก็บรวบรวมข้อมูล
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอน ดังนี้1 ผู้ศึกษาได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง จากพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด 2 นำข้อมูลของแบบสอบถาม ไปลงตารางโปรแกรมสำเร็จรูป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม มาตราส่วน 5 ระดับ (Rating scale) โดยกำหนดเกณฑ์ คะแนนการประมาณค่า ดังนี้ คะแนน 5 หมายถึงระดับความสำคัญ มากที่สุด คะแนน 4 หมายถึง ระดับความสำคัญมาก คะแนน 3 หมายถึง ระดับความสำคัญ ปานกลาง คะแนน 2 หมายถึง ระดับความสำคัญ น้อย คะแนน 1 หมายถึงระดับความสำคัญน้อยที่สุด
การวิเคราะห์ข้อมูล ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามขั้นตอน และรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 1 ตรวจสอบความถูกต้องของแบบสอบถามที่ได้รับกลับคืนมา 2 นำแบบสอบถามมาลงตารางตามเกณฑ์ที่กำหนด 3 ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดยวิเคราะห์ข้อมูล 3 เปรียบเทียบปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ โดยการทดสอบค่า (t-test Independent) 4 เปรียบเทียบระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด ในแต่ละด้านจำแนกตาม อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ประสบการณ์การทำงาน เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่มขึ้นไป โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์การวิจัยครั้งนี้ ได้ใช้สถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าเฉลี่ยด้วย Independent Samples t – test และ One way ANOVA
ผลการวิจัย
จากการวิเคราะห์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด เพศชาย จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 22.35 เพศหญิง จำนวน 66 คน คิดเป็นร้อยละ 77.65 ส่วนใหญ่ มีอายุอยู่ระหว่าง 25 – 35 ปี จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 38.82 มีอายุอยู่ระหว่าง 36 – 45 ปี จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 23 มีอายุน้อยกว่า 25 ปี จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 21.18 และน้อยที่สุด มีอายุมากกว่า 45 ปี ขึ้นไป จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 12.94 กลุ่มตัวอย่างสมรสแล้ว จำนวน 65 คน คิดเป็นร้อยละ 76.47 รองลงมาเป็นโสด จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 18.82 และเป็นหม้าย / หย่าร้าง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 4.71 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 64.71 รองลงมา จบการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 27.06 และน้อยที่สุด จบการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 8.24 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีรายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง 20,000 – 30,000 บาท จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 35.29 รองลงมา มีรายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง 30,001 – 40,000 บาท จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 25.88 และน้อยที่สุด มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 40,000 บาท ขึ้นไป จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 10.59 และกลุ่มตัวอย่าง มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปี ขึ้น ไป จำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 47.06 รองลงมา มีประสบการณ์การทำงานอยู่ระหว่าง 5 – 10 ปี จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 29.41 และน้อยที่สุด มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 23.53
ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด ผลการวิเคราะห์ พบว่า ค่าเฉลี่ยปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.94, SD = 0.156) เมื่อพิจารณารายด้านกลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ด้านภาวะอิสระจากงานมีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานมากกว่าด้านอื่น (M = 4.21, SD = 4.21) รองลงมา คือ ด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย (M = 3.93, SD = 0.353) และน้อยที่สุด คือ ด้านความสุขในการทำงาน (M = 3.43, SD = 0.296) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ค่าเฉลี่ยความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน ด้านผลตอบแทนที่พอเพียงและยุติธรรม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.93, SD = 0.353) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านเห็นว่า รายได้โดยรวมของท่านเพียงพอกับค่าใช้จ่ายของท่าน และแบ่งปันให้ครอบครัวโดยไม่เดือดร้อนเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านผลตอบแทนที่พอเพียง และยุติธรรมมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.08, SD = 0.539) รองลงมา คือ คำถามเรื่องผลตอบแทน และรางวัลจากการทำงานที่ท่านคุ้มค่ากับความอุตสาหะของท่าน (M = 3.88, SD = 0.498) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่อง ท่านพอใจต่ออัตราเงินเดือนในปัจจุบัน (M = 3.82, SD = 0.516) ส่วนด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 4.19, SD = 0.335) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านเห็นว่า องค์การมีการปรับปรุงสภาพการทำงาน และสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.61, SD = 0.490) รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านเห็นว่า องค์การให้ความสนใจ และกวนขันในเรื่องการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นการทำงาน (M = 4.04, SD = 0.544) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องในการปฏิบัติงานของท่านมีอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (M = 3.93, SD = 0.552) สำหรับด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.93, SD = 0.422) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่มีความหมาย และสำคัญต่อองค์การ ไม่ซ้ำซาก หรือน่าเบื่อ เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงานมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.53, SD = 0.502) รองลงมา คือ คำถามเรื่อง ท่านมีโอกาสได้ใช้ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ในการทำงาน (M = 4.14, SD = 0.657) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่อง ท่านรับทราบผลการปฏิบัติงานของจากผู้บังคับบัญชา เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น (M = 3.47, SD = 0.717) ส่วนด้านความก้าวหน้า และความมั่นคงในอาชีพ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.81, SD = 0.335) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่อง ท่านรู้สึกมีความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่ของท่านในปัจจุบัน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านความก้าวหน้า และความมั่นคงในอาชีพมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.33, SD = 0.473) รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านพึงพอใจต่อนโยบายการบริหารงานขององค์การที่มีต่อความก้าวหน้าในอาชีพของท่าน (M = 3.80, SD = 0.632) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่ององค์การของท่านเปิดโอกาสให้พนักงานมีความก้าวหน้าในอาชีพอย่างชัดเจน (M = 3.51, SD = 0.701) สำหรับด้านสังคมสัมพันธ์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 4.07, SD = 0.329) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่อง ท่านรู้สึกมีความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่ของท่านในปัจจุบัน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านสังคมสัมพันธ์มากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.45, SD = 0.500) รองลงมา คือ คำถามเรื่อง ท่านเห็นว่า บรรยากาศในองค์การมีความเป็นมิตรต่อกัน ทั้งในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน และระหว่างผู้บังคับบัญชากับทีมงาน (M = 3.96, SD = 0.626) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องท่านและเพื่อนร่วมงานช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาในการทำงานร่วมกันและบางครั้ง อาจรวมไปถึงปัญหาส่วนตัวอีกด้วย (M = 3.79, SD = 0.579) ส่วนด้านลักษณะการบริหารงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.93, SD = 0.287) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องผู้บังคับบัญชารับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของท่าน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านลักษณะการบริหารงานมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.16, SD = 0.508) รองลงมา คือ คำถามเรื่อง ท่านพึงพอใจในรูปแบบการบริหารงาน และลักษณะการปฏิบัติงานของผู้บังคับบัญชา (M = 3.97, SD = 0.442) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องรูปแบบการบริหารงานผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติต่อท่าน ทำให้ท่านรู้สึกว่า ตนเองเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าขององค์การ (M = 3.66, SD = 0.646) สำหรับด้านภาวะอิสระจากงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 4.21, SD = 4.21) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านเห็นว่า ปริมาณงานที่รับผิดชอบไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของท่าน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทในด้านภาวะอิสระจากงานมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.66, SD = 0.508) รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านสามารถหยุดพัก หรือมีเวลาอิสระจากงานเพื่อผ่อนคลายความเครียด (M = 4.35, SD = 0.542) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องงานที่ท่านรับผิดชอบอยู่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของท่าน (M = 3.58, SD = 0.543) ส่วนด้านความภาคภูมิใจในองค์การ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.93, SD = 0.409) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านยอมรับว่า ผลจากการทำงาน / กิจกรรมที่ประสบความสำเร็จต่าง ๆ ในองค์การมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคม และประเทศเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน ในด้านความภาคภูมิใจในองค์การมากกว่าประเด็นอื่น (M = 4.76, SD = 4.76) รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านภูมิใจในการทำงานในองค์การแห่งนี้ (M = 3.64, SD = 0.687) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องเวลามีคนถามว่า ท่านทำงานที่ไหน ท่านจะตอบอย่างภาคภูมิใจบริษัทของท่านเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียง (M = 3.38, SD = 0.597) และสำหรับด้านความสุขในการทำงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (M =3.43, SD = 0.296) เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านรู้สึกมีความสุขในการทำงานกับผู้ร่วมงานในหน่วยงานเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานในด้านความสุขในการทำงานมากกว่าประเด็นอื่น (M = 3.91, SD = 0.570) รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านมีความสุขที่เห็นว่า บุคลากรในหน่วยงานมีความรักและความผูกพันซึ่งกันและกัน (M = 3.72, SD = 0.781) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องท่านมีความสุขที่ท่านและผู้ร่วมงานพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรในระหว่างทำงาน (M = 3.01, SD = 0.567)
ผลการทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามลักษณะส่วนบุคคล ผลการทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านความสุขในการทำงาน การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านผลตอบแทนที่พอเพียงและยุติธรรม พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านผลตอบแทนที่พอเพียงและยุติธรรม ไม่แตกต่างกัน ในทุก ๆ ประเด็นคำถาม
การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะประเด็นคำถามเรื่องท่าน เห็นว่า องค์การมีการปรับปรุงสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ไม่แตกต่างกัน ในทุกๆ ประเด็นคำถาม การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะประเด็นคำถามเรื่องท่าน เห็นว่า นโยบายเกี่ยวกับการว่าจ้างพนักงานยังคงทำงานอยู่กับองค์การ และองค์การส่งเสริมให้ท่านมีโอกาสพัฒนาความรู้และความสามารถในงาน เช่น ได้ไปดูงาน อบรม สัมมนา ศึกษาต่อ การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานขอพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านสังคมสัมพันธ์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านสังคมสัมพันธ์ ไม่แตกต่างกันในทุก ๆ ประเด็นคำถาม การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านลักษณะการบริหารงาน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านลักษณะการบริหารงาน ไม่แตกต่างกัน ในทุก ๆ ประเด็นคำถาม การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านภาวะอิสระจากงาน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านภาวะอิสระจากงาน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะประเด็นคำถามเรื่องท่านเห็นว่าปริมาณงานที่รับผิดชอบไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของท่าน และท่านสามารถหยุดพักหรือมีเวลาอิสระจากงานเพื่อผ่อนคลายความเครียด การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านความภาคภูมิใจในองค์การ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านความภาคภูมิใจในองค์การแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะประเด็นคำถามเรื่องท่านยอมรับว่า ผลจากการทำงาน / กิจกรรมที่ประสบความสำเร็จต่าง ๆในองค์การมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและประเทศ
การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ ด้านความสุขในการทำงาน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท ด้านความสุขในการทำงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะประเด็นคำถามเรื่องท่านมีความสุขจากการได้รับความร่วมมือในการทำงานจากผู้ร่วมงาน และท่านมีความสุขเมื่อให้ความช่วยเกลือแก่ผู้ร่วมงานท่านอื่นๆ การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามอายุ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุต่างกันมีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านความภาคภูมิใจในองค์การ และด้านความสุขในการทำงาน การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามสถานภาพสมรส พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีสถานภาพสมรสต่างกันมีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านภาวะอิสระจากงาน การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านความภาคภูมิใจในองค์การ และด้านความสุขในการทำงาน การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามรายได้ต่อเดือน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพด้านสังคมสัมพันธ์ และด้านความสุขในการทำงาน การทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีประสบการณ์การทำงานต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านความภาคภูมิใจในองค์การ และด้านความสุขในการทำงาน
อภิปรายผล
จากการวิจัยอภิปรายได้ว่า ค่าเฉลี่ยปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ด้านภาวะอิสระจากงานมีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มากกว่าด้านอื่นโดยเฉพาะเรื่องท่านเห็นว่าปริมาณงานที่รับผิดชอบไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของท่าน รองลงมา คือ ด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องท่านเห็นว่า องค์การมีการปรับปรุงสภาพการทำงาน และสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน และน้อยที่สุด คือ ด้านความสุขในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องท่านมีความสุขที่ท่านและผู้ร่วมงานพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรในระหว่างทำงาน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ค่าเฉลี่ยความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท ด้านผลตอบแทนที่พอเพียงและยุติธรรม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านเห็นว่ารายได้โดยรวมของท่านเพียงพอกับค่าใช้จ่ายของท่าน และแบ่งปันให้ครอบครัว โดยไม่เดือดร้อนเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท ในด้านผลตอบแทนที่พอเพียงและยุติธรรมมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องผลตอบแทนและรางวัลจากการทำงานที่ท่านคุ้มค่ากับความอุตสาหะของท่าน และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องท่านพอใจต่ออัตราเงินเดือนในปัจจุบัน ส่วนด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านเห็นว่า องค์การมีการปรับปรุงสภาพการทำงาน และสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยในการทำงานเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท ในด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือคำถามเรื่อง ท่านเห็นว่า องค์การให้ความสนใจและกวนขันในเรื่องการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นการทำงาน และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องในการปฏิบัติงานของท่านมีอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สำหรับด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่มีความหมาย และสำคัญต่อองค์การ ไม่ซ้ำซาก หรือน่าเบื่อเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทในด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงานมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมาคือคำถามเรื่องท่านมีโอกาสได้ใช้ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ในการทำงาน (M = 4.14, SD = 0.657) และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่อง ท่านรับทราบผลการปฏิบัติงานของจากผู้บังคับบัญชา เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น ส่วนด้านความก้าวหน้า และความมั่นคงในอาชีพ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านรู้สึกมีความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่ของท่านในปัจจุบันเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท ในด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านพึงพอใจต่อนโยบายการบริหารงานขององค์การที่มีต่อความก้าวหน้าในอาชีพของท่าน และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่ององค์การของท่านเปิดโอกาสให้พนักงานมีความก้าวหน้าในอาชีพอย่างชัดเจน สำหรับด้านสังคมสัมพันธ์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านรู้สึกมีความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่ของท่านในปัจจุบันเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทในด้านสังคมสัมพันธ์มากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านเห็นว่า บรรยากาศในองค์การมีความเป็นมิตรต่อกัน ทั้งในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน และระหว่างผู้บังคับบัญชากับทีมงาน และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องท่าน และเพื่อนร่วมงานช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาในการทำงานร่วมกันและบางครั้ง อาจรวมไปถึงปัญหาส่วนตัวอีกด้วย ส่วนด้านลักษณะการบริหารงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องผู้บังคับบัญชารับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของท่านเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทในด้านลักษณะการบริหารงานมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านพึงพอใจในรูปแบบการบริหารงานและลักษณะการปฏิบัติงานของผู้บังคับบัญชา และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องรูปแบบการบริหารงานผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติต่อท่าน ทำให้ท่านรู้สึกว่า ตนเองเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าขององค์การ สำหรับด้านภาวะอิสระจากงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านเห็นว่า ปริมาณงานที่รับผิดชอบไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของท่านเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทในด้านภาวะอิสระจากงานมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านสามารถหยุดพัก หรือมีเวลาอิสระจากงานเพื่อผ่อนคลายความเครียด และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องงานที่ท่านรับผิดชอบอยู่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของท่าน ส่วนด้านความภาคภูมิใจในองค์การ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านยอมรับว่า ผลจากการทำงาน / กิจกรรมที่ประสบความสำเร็จต่าง ๆ ในองค์การมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคม และประเทศเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท ในด้านความภาคภูมิใจในองค์การมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านภูมิใจในการทำงานในองค์การแห่งนี้ และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องเวลามีคนถามว่าท่านทำงานที่ไหน ท่านจะตอบอย่างภาคภูมิใจบริษัทของท่านเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียง และสำหรับด้านความสุขในการทำงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายประเด็นคำถาม พบว่า คำถามเรื่องท่านรู้สึกมีความสุขในการทำงานกับผู้ร่วมงานในหน่วยงานเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากที่ส่งผลต่อความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทในด้านความสุขในการทำงานมากกว่าประเด็นอื่น รองลงมา คือ คำถามเรื่องท่านมีความสุขที่เห็นว่า บุคลากรในหน่วยงานมีความรัก และความผูกพันซึ่งกันและกัน และน้อยที่สุด คือ คำถามเรื่องท่านมีความสุขที่ท่านและผู้ร่วมงานพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรในระหว่างทำงาน ผลการทดสอบสมมติฐานปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัท มณีแดง โกลบอล บาย ยูนายพลัส จำกัด จำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีความสุข และคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านความสุขในการทำงาน ส่วนจำแนกตามอายุ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุต่างกันมีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านความภาคภูมิใจในองค์การ และด้านความสุขในการทำงาน ส่วนจำแนกตามสถานภาพสมรส พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีสถานภาพสมรสต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านภาวะอิสระจากงาน ส่วนจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านความภาคภูมิใจในองค์การ และด้านความสุขในการทำงาน ส่วนจำแนกตามรายได้ต่อเดือน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพ ด้านสังคมสัมพันธ์ และด้านความสุขในการทำงาน และ สำหรับจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีประสบการณ์การทำงานต่างกันมีความสุขและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริษัท แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เฉพาะด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านความภาคภูมิใจในองค์การ และด้านความสุขในการทำงาน
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะจากการศึกษา
1 ด้านผลตอบแทนที่พอเพียงและยุติธรรม ผู้บริหารของบริษัท ต้องหมั่นดูแลในเรื่องอัตราเงินเดือนของพนักงานเนื่องจากปัจจุบันภาวะค่าครองชีพสูงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพนักงานโดยตรง
2 ด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย ผู้บริหารของบริษัทต้องให้ความสนใจ และกวดขันในเรื่องการปฏิบัติงานของพนักงานให้มีอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3 ด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ผู้บริหารของบริษัทต้องให้ความสนใจและแจ้งผลการปฏิบัติงานให้กับพนักงานโดยตรง เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น
4 ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพ ผู้บริหารของบริษัท ต้องมีการวางแผนการพัฒนาพนักงานให้พนักงานมีความก้าวหน้าในอาชีพอย่างชัดเจน
5 ด้านสังคมสัมพันธ์ ผู้บริหารของบริษัท ต้องส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือให้พนักงานร่วมงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาในการทำงานร่วมกันและบางครั้ง อาจรวมไปถึงปัญหาส่วนตัวอีกด้วย
6 ด้านลักษณะการบริหารงาน ผู้บริหารของบริษัท ต้องมีการกำหนดรูปแบบการบริหารงานเพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติต่อพนักงานทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าขององค์การ
7 ด้านภาวะอิสระจากงาน ผู้บริหารของบริษัท ต้องหมั่นควบคุมดูแลให้งานที่พนักงาน รับผิดชอบอยู่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของพนักงาน
8 ด้านความภาคภูมิใจในองค์การ ผู้บริหารของบริษัทต้องสร้างความภาคภูมิใจในการทำงานให้กับพนักงานในองค์การแห่งนี้ เวลามีคนถามว่าทำงานที่ไหน พนักงานจะตอบอย่างภาคภูมิใจว่าบริษัทของพนักงานเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียง
9 ด้านความสุขในการทำงาน ผู้บริหารของบริษัท ต้องส่งเสริมการทำงานโดยให้พนักงานมีความสุขผู้ร่วมงานพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรในระหว่างทำงาน มีการทำงานร่วมกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนงานประสบความสำเร็จ
