ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร

THE FACTORS INFLUENCING CUSTOMER SATISFACTION IN USING SERVICES AT

LINDA HEALTH MASSAGE, BANGKOK

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร

THE FACTORS INFLUENCING CUSTOMER SATISFACTION IN USING SERVICES AT

LINDA HEALTH MASSAGE, BANGKOK

ปาริชาติ ชาพันดุง

PARICHAT CHAPUNDUNG

Entrepreneur, Linda Health Massage@gmail.com

อาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ช่วยศาสาตราจารย์ ดร.วรรณี เบญจวัฒนาผล

คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก

Graduate students of Master of Arts Faculty of Liberal Arts, Krirk University

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ลูกค้าผู้มาใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนมกราคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 222 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิอัลฟาของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ เท่ากับ 0.829 ความพึงพอใจในการใช้บริการ เท่ากับ 0.836 และแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.837 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน

ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ พบว่า ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ เป็นปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านผู้ให้บริการ ด้านกระบวนการบริการ และด้านผลิตภัณฑ์บริการมีผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ มีผลอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 ขณะที่ด้านราคาค่าบริการ และด้านสถานที่บริการ ไม่มีผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ ร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร

คำสำคัญ: ความพึงพอใจ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด นวดแผนไทย การใช้บริการ

Abstract

This study aimed to examine the factors influencing customer satisfaction with the services of Linda Health Massage in Bangkok. The population consisted of customers who used the services at Linda Health Massage during December 2024 to January 2025. A total of 222 respondents were selected as the sample group. Data collection was conducted using a questionnaire. The reliability coefficients (Cronbach’s Alpha) were 0.829 for the service marketing mix factors, 0.836 for customer satisfaction, and 0.837 for the overall questionnaire. The statistics used for data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, and Pearson correlation coefficient.

The results revealed that the factor with the greatest influence on customer satisfaction was promotion, followed by people, process, and product, all of which had a statistically significant effect at the 0.01 level. The physical evidence factor had a significant effect at the 0.05 level. In contrast, price and place had no statistically significant effect on customer satisfaction at Linda Health Massage in Bangkok.

Keyword: Customer satisfaction, marketing mix factors, Thai massage, service usage

บทนำ

ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ได้สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ โดยเฉพาะอาชีพนวดแผนไทยที่ถือเป็นอัตลักษณ์ของไทย เป็นที่รู้จักของนานาประเทศ โดยต่างประเทศมีความต้องการแรงงานกลุ่มนี้จำนวนมาก อาชีพดังกล่าวยังสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ พร้อมส่งเสริมธุรกิจอาหารไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นอกจากนี้ การส่งเสริมดังกล่าวอีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพลังสร้างสรรค์ (Soft power) ของประเทศ (ไทยโพสต์, 2567)

จากการผลักดันนโยบายรัฐบาล ในปี 2566 พบว่า มีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพสปา จำนวน 929 แห่ง นวดเพื่อสุขภาพ 10,652 แห่ง และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพความงามจำนวน 143 แห่ง ทั้งนี้ มีจำนวนผู้ให้บริการนวดไทยทั้งในภาครัฐและเอกชน รวม 183,982 คน (Bangkokbiznews, 2567) อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดมีความรุนแรงควบคู่ไปกับการเติบโตที่เพิ่มขึ้น การดำรงธุรกิจในตลาดดังกล่าว จึงต้องเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ (ปภัสสร นิลวงศ์, 2565)

จากการศึกษาด้านพฤติกรรมการใช้บริการ SCB EIC Health & Wellness survey (2566) พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้บริการนวดและสปาเป็นครั้งคราว ไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน และใช้จ่ายบริการนวดและสปาอยู่ที่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงานมักเลือกใช้บริการนวดแผนไทยในร้านขนาดเล็ก เนื่องจาก มีราคาย่อมเยา และบริการหลากหลาย ขณะที่สปาขนาดกลางและใหญ่พยายามออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า ทั้งนี้ การเลือกใช้บริการนวดและสปาของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ คุณภาพการให้บริการจากเจ้าหน้าที่ ความสะอาดของสถานที่ บรรยากาศ ความเป็นส่วนตัว และรีวิวออนไลน์ นอกจากนี้ การใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยังเน้นปัจจัยด้านความสะดวก และรีวิวเป็นหลัก (ปภัสสร นิลวงศ์, 2565; นิดานุช ราหุลทัต, 2567) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ ได้แก่ คุณภาพผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคาที่ชัดเจน ความสะอาดของสถานที่ ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก และประสิทธิภาพของพนักงาน (ปภัสสร นิลวงศ์, 2565; ณัฐกานต์ มีพัฒน์, 2565) การให้บริการที่ดีควรเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เช่น การรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ การให้บริการที่เหมาะสม และหลากหลาย รวมถึงการส่งเสริมการขายผ่านโปรโมชั่นต่าง ๆ

จากการศึกษาในด้านปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ ปภัสสร นิลวงศ์ (2565) พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ คือ มีการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าขนหนู และชุดสำหรับผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริการครั้งต่อไป ด้านราคา คือ มีป้ายแจ้งราคาค่าบริการชัดเจน ถูกต้อง ด้านสถานที่ คือ สถานที่มีความสะอาดต่อการให้บริการ ด้านการส่งเสริมการตลาด คือ ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก เช่น ลด 10% ทุกครั้งที่ใช้บริการ ด้านบุคคล คือ พนักงานมีความเชี่ยวชาญ และมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ด้านลักษณะทางกายภาพ คือ ห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามีความสะอาด ด้านกระบวนการ คือ มีการเตรียมส่วนผสมที่ใช้ในการให้บริการอย่างรวดเร็ว ขณะที่การศึกษาของณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) พบว่า ปัจจัยทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการนวดแผนไทย 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการนำเสนอทางกายภาพ และด้านกระบวนการ ส่วนด้านราคา ด้านช่องทางการจำหน่าย และการศึกษาของนิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า ผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการสนับสนุนการตลาด ด้านบุคลากร ด้านลักษณะทางกายภาพ และด้านกระบวนการ ส่งผลต่อคุณภาพการบริการอย่างมีนัยสำคัญ

แนวทางในการประกอบธุรกิจนวดแผนไทย นภาพร จึงตระกูล (2557) แนะนำว่า ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้ง เช่น ควรอยู่ในแหล่งชุมชน หรือสถานที่ที่เดินทางสะดวก มีการตกแต่งร้านให้สะอาด สวยงาม และได้มาตรฐานความปลอดภัย การแจ้งอัตราค่าบริการที่ชัดเจน และเหมาะสมกับคุณภาพบริการ การคัดเลือกบุคลากรที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี สุภาพเรียบร้อย และมีความรู้ความชำนาญด้านการนวดเป็นสิ่งสำคัญ การโฆษณา และการส่งเสริมการขาย เช่น การให้ส่วนลด หรือโปรโมชั่นพิเศษช่วงเทศกาลสำคัญ จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มาก นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบว่า เจ้าของกิจการยังขาดประสบการณ์ และความชำนาญ พนักงานมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า บรรยากาศในสถานประกอบการบางแห่งไม่เป็นส่วนตัว สถานที่บางแห่งไม่มีที่จอดรถ ทำให้เกิดความไม่สะดวก อีกทั้งผู้ให้บริการบางรายยังขาดความรู้ และความสามารถที่เพียงพอ รวมถึงมีปัญหาด้านมารยาท ความสะอาด และการจัดการพื้นที่บริการ (ลินจง โพชารี, 2560)

จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ศึกษาในฐานะผู้ประกอบการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร จึงมีความสนใจที่จะศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยนำแนวคิดจากการศึกษาเกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาดบริการ ตามแนวคิดของพิมล เมฆสวัสดิ์ (2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565) ซึ่งครอบคลุม 7 ด้าน มาเป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์บริการ ด้านราคาค่าบริการ ด้านสถานที่บริการ ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ ด้านผู้ให้บริการ ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ และด้านกระบวนการบริการ ผลการศึกษานี้สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการให้บริการให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 

เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยใช้แนวคิดส่วนประสมทางการตลาดบริการ 7 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านผลิตภัณฑ์บริการ 2) ด้านราคาค่าบริการ 3) ด้านสถานที่บริการ 4) ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ 5) ด้านผู้ให้บริการ 6) สภาพแวดล้อมของการบริการ และ 7) ด้านกระบวนการบริการ

ประโยชน์ที่ได้รับ

1. เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการให้บริการ ร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ผู้ประกอบการจะสามารถนำผลการวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการมาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง และพัฒนาการให้บริการในทุกด้าน เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์การบริการ การปรับปรุงสถานที่บริการ หรือการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

2. เพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม ผลการศึกษาจะช่วยให้ผู้ประกอบการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร และผู้ประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพสามารถวางแผนการส่งเสริมการขาย การกำหนดราคาค่าบริการ และการประชาสัมพันธ์ที่ตรงกับความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดลูกค้าใหม่

3. เพื่อสร้างความพึงพอใจ และความภักดีของลูกค้า ด้วยการใช้ข้อมูลจากการศึกษาร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร และผู้ประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพจะสามารถระบุปัญหา และจุดที่ควรปรับปรุง ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความพึงพอใจและเพิ่มความภักดีของลูกค้าในระยะยาว

วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง

ศิริ พันธ์ทา (2562) อธิบายว่า ความพึงพอใจเป็นทัศนคติที่เกิดจากความรู้สึกของบุคคลต่อผลสำเร็จของงาน ซึ่งสัมพันธ์กับแรงผลักดันภายในเพื่อบรรลุเป้าหมาย เมื่อสำเร็จแล้วจะเกิดความพึงพอใจที่สะท้อนกลับไปสู่พฤติกรรมในลักษณะต่อเนื่อง ขณะที่ อิทธิพันธ์ จันทรสาคร (2565) เสริมว่า ความพึงพอใจเป็นความรู้สึกภายในที่แสดงออกผ่านพฤติกรรม ทั้งในรูปแบบความพอใจหรือไม่พอใจ ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทำนองเดียวกัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม (2567) กล่าวเพิ่มเติมว่า ความพึงพอใจเกิดจากการได้รับผลลัพธ์ตรงตามความคาดหวังของผู้ใช้บริการ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ คือ บุคลากรผู้ให้บริการ (Man) การบริหารจัดการ (Management) และการตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ (Customer) ทั้งด้านร่างกาย เช่น ความรวดเร็วในการบริการที่ช่วยลดความทุกข์ และด้านจิตใจ เช่น การช่วยเหลือทันทีที่ร้องขอ นอกจากนี้ ความพร้อมของทรัพยากร เวลา และนโยบายองค์กรที่เอื้อต่อความเป็นธรรมก็ล้วนเป็นปัจจัยที่เสริมสร้างความพึงพอใจ และหัวใจสำคัญของการให้บริการที่ดี คือ “คน” ซึ่งต้องมีใจรักบริการ (Service Mind) และความเต็มใจในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างจริงใจ

พิมล เมฆสวัสดิ์ (2550, อ้างถึงในอิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565) กล่าวว่า ส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย

1. ด้านผลิตภัณฑ์ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจและการตัดสินใจของผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการควรเน้นการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของลูกค้า และแสดงออกถึงความเอาใจใส่และความจริงใจในการให้บริการ (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) สอดคล้องกับการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่พบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ในการเลือกใช้บริการนวดแผนไทยของประชาชนในอำเภอเมืองสุรินทร์ อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.37) โดยเฉพาะคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น สมุนไพร ลูกประคบ และน้ำมันนวด (M = 4.45) เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงสุดในการตัดสินใจ ขณะที่การศึกษาของ นิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า ผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทยในเขตพญาไทและเขตราชเทวี กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันนวด รวมถึงการมีช่วงเวลาการให้บริการที่เหมาะสม และขนาดของห้องบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยปัจจัยเหล่านี้มีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุดเช่นกัน ซึ่งสะท้อนว่า ผลิตภัณฑ์บริการที่ดีไม่เพียงแต่ต้องมีคุณภาพ แต่ยังต้องตอบสนองความสะดวก และความคาดหวังของผู้ใช้บริการได้อย่างครบถ้วน

2. ด้านราคาค่าบริการถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความพึงพอใจและการตัดสินใจของผู้ใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการจะทำการประเมินคุณภาพและรูปแบบของการบริการเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งราคาค่าบริการควรมีความเหมาะสมกับคุณภาพของบริการและเป็นไปตามความเต็มใจที่จะจ่าย (Willingness to Pay) ของผู้บริโภค (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) สอดคล้องกับการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่พบว่า ปัจจัยด้านราคามีระดับความสำคัญมากที่สุด (M = 4.48) โดยเฉพาะในประเด็นการแจ้งอัตราค่าบริการที่ชัดเจน (M = 4.54) เป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญสูงสุด เช่นเดียวกับการศึกษาของ นิดานุช ราหุลทัต (2567) ที่พบว่า ด้านราคามีระดับความพึงพอใจมากที่สุด โดยเฉพาะการบอกราคาที่ชัดเจน ราคาที่เหมาะสมกับช่วงเวลาให้บริการ และราคาที่ใกล้เคียงกับราคามาตรฐานของตลาด ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลเชิงบวกต่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความโปร่งใสและความเหมาะสมของราคาค่าบริการมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจใช้บริการของผู้บริโภคในธุรกิจนวดแผนไทย

3. ด้านสถานที่บริการ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจและการตัดสินใจใช้บริการของผู้บริโภค โดยผู้ให้บริการควรเลือกสถานที่ที่สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอ และเอื้อต่อการอำนวยความสะดวกในทุกด้าน เช่น มีที่จอดรถ หรือสามารถเข้าถึงบริการผ่านระบบออนไลน์ได้ (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) สอดคล้องกับผลการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่พบว่า ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.41) โดยเฉพาะสถานที่ที่มีความปลอดภัย (M = 4.45) เป็นประเด็นที่ลูกค้าให้ความสำคัญสูงสุด เช่นเดียวกับการศึกษาของ นิดานุช ราหุลทัต (2567) ที่พบว่า ทำเลที่ตั้งซึ่งเข้าถึงง่าย เดินทางสะดวก มีการแนะนำเส้นทางชัดเจน และมีพื้นที่จอดรถเพียงพอ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ส่งเสริมความพึงพอใจของผู้ใช้บริการอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่า การจัดเตรียมสถานที่ให้เหมาะสมและตอบโจทย์ความสะดวกสบายของลูกค้า เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ให้บริการไม่ควรมองข้าม

4. ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจูงใจให้ผู้ใช้บริการตัดสินใจเลือกใช้บริการ โดยผู้ให้บริการควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงบวก ทั้งด้านคุณภาพและภาพลักษณ์ของบริการผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถนำข้อมูลไปประเมินและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) สอดคล้องกับการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่พบว่า ด้านการส่งเสริมการตลาดอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.31) โดยเฉพาะการจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าแบบแพ็กเกจ ซึ่งได้รับความพึงพอใจสูงสุด (M = 4.45) ขณะที่ นิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า การสนับสนุนทางการตลาด เช่น การให้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม การมีช่องทางประชาสัมพันธ์ที่หลากหลาย และการโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมาย เป็นปัจจัยที่ผู้ใช้บริการให้ความสำคัญอย่างมาก แสดงให้เห็นว่า การสื่อสารทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจใช้บริการได้อย่างชัดเจน

5. ด้านผู้ให้บริการถือเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการควรตระหนักถึงบทบาทของตนในการสร้างความพึงพอใจ โดยต้องแสดงออกถึงพฤติกรรมการบริการที่ดี มีจิตสำนึกในการให้บริการอย่างจริงใจ เอาใจใส่ และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่พบว่า ด้านบุคลากรอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.54) โดยเฉพาะการแต่งกายที่สะอาดและเหมาะสมกับการให้บริการ (M = 4.35) ขณะเดียวกัน นิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า ผู้ให้บริการที่แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีองค์ความรู้ และพัฒนาทักษะการบริการอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ แสดงให้เห็นว่า บุคลากรที่มีบุคลิกภาพดี มีทัศนคติบริการที่เหมาะสม และสามารถปฏิบัติงานด้วยความเชี่ยวชาญ มีอิทธิพลต่อการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า

6. ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการมีบทบาทสำคัญในการสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการจำเป็นต้องออกแบบสถานที่ให้มีความสวยงาม แบ่งพื้นที่ใช้งานอย่างเหมาะสม และสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรบริการ (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) ซึ่งสอดคล้องกับ Loureiro, et al. (2013, อ้างถึงใน ละอองทราย โกมลมาลย์, 2556) ที่ชี้ว่า บรรยากาศภายในร้าน เช่น การจัดแสง เสียง อุณหภูมิ และความสะอาด มีผลทางจิตวิทยาต่อความรู้สึกของลูกค้า และเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ส่งผลทางอ้อมต่อความพึงพอใจของลูกค้า โดยเฉพาะบริการประเภทสปาที่ต้องอาศัยความรู้สึกผ่อนคลายเป็นสำคัญ ซึ่งผลการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ก็สนับสนุนประเด็นนี้ โดยพบว่า ด้านการนำเสนอทางกายภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.42) โดยเฉพาะประเด็นการแยกพื้นที่ให้บริการระหว่างชายและหญิง (M = 4.51) ขณะที่ นิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า ลูกค้าให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความสะอาด บรรยากาศที่ดี และการเปิดเพลงเพื่อสร้างความผ่อนคลายระหว่างใช้บริการ สะท้อนว่า การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสถานบริการ แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ

7. ด้านกระบวนการบริการถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการต้องวางระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัว และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ผ่านการบริหารจัดการที่ดีและการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับบุคลากรที่มีคุณภาพ (พิมล เมฆสวัสดิ์, 2550, อ้างถึงใน อิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565; ศิริ พันธ์ทา, 2562) ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่พบว่า ด้านกระบวนการอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.45) โดยเฉพาะขั้นตอนการให้บริการที่ถูกต้องและเหมาะสม เช่น ขั้นตอนการนวดและการอบสมุนไพร (M = 4.49) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดกระบวนการให้มีความชัดเจนและเป็นระบบ ขณะที่ นิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า ลูกค้าให้ความสำคัญกับความพร้อมของบุคลากร การไม่เกิดปัญหาระหว่างให้บริการ และความตรงต่อเวลา ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบของกระบวนการบริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจโดยตรง ดังนั้น การออกแบบกระบวนการบริการที่ดี ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความเชื่อมั่นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการได้อย่างแท้จริง

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

จากการทบทวนวรรณกรรม พบว่า หลายงานวิจัยชี้ให้เห็นถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในธุรกิจบริการ โดยเฉพาะร้านนวดและสปา ซึ่งให้ความสำคัญกับทั้งด้านการส่งเสริมการตลาดและคุณภาพการให้บริการ ฐิติพงษ์ โพธิพิพิธ และอรชร มณีสงฆ์ (2559) พบว่า ลูกค้าพึงพอใจในระดับมากต่อการส่งเสริมการตลาดของร้านนวด โดยเฉพาะการให้ส่วนลดและการจัดโปรโมชั่นพิเศษ ขณะที่ อุมาพร ศรีอุ่นลี และวัชระ ยี่สุ่นเทศ (2562) ระบุว่า ลูกค้าให้ความสำคัญต่อการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ และกิจกรรมส่งเสริมการขายตามฤดูกาล ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ มนัสนันท์ เม่งก่วง และธิดาสวรรค์ อินสูนย์ (2565) ที่พบว่า การจัดโปรโมชั่นส่งผลต่อความพึงพอใจในระดับสูง โดยเฉพาะในด้านพนักงานต้อนรับ บรรยากาศ ทรีตเมนต์ และพนักงานนวด นอกจากนี้ ศมน พรหมหิตาทร (2560) พบว่า ผู้ใช้บริการ Day Spa ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีระดับความพึงพอใจ โดยรวม อยู่ในระดับมาก (M = 3.85) ขณะที่ ไพโรจน์ สมศรี (2564) ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ใช้บริการสปาในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีความพึงพอใจสูงในหลายด้าน ทั้งบุคลากร ลักษณะทางกายภาพ สถานที่ กระบวนการ ช่องทางการจัดจำหน่าย และการส่งเสริมการตลาด ส่วน ชนิกานต์ ตรีวัย และคณะ (2563) เน้นย้ำว่า ความพึงพอใจเกิดจากการเปรียบเทียบระหว่างผลลัพธ์ที่ได้รับกับความคาดหวังของลูกค้า โดยคุณภาพบริการของพนักงานและผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลมากกว่าปัจจัยด้านราคา คู่แข่ง หรือสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งในธุรกิจบริการอย่างสปา ความสามารถของพนักงาน ความเป็นมืออาชีพ และความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่นจึงมีความสำคัญยิ่ง กล่าวโดยสรุป งานวิจัยเหล่านี้ล้วนชี้ให้เห็นว่า ความพึงพอใจของลูกค้าขึ้นอยู่กับทั้งการจัดการประสบการณ์บริการที่ดี การมีพนักงานที่มีทักษะและความเอาใจใส่ ตลอดจนการใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

กรอบแนวคิดสำหรับการวิจัย

การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ตัวแปร 2 ตัว ดังนี้

1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ ได้แก่ ส่วนประสมทางการตลาดบริการ ของพิมล เมฆสวัสดิ์ (2550, อ้างถึงในอิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565) 7 ด้าน ประกอบด้วย ด้านผลิตภัณฑ์บริการ ด้านราคาค่าบริการ  ด้านสถานที่บริการ ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ ด้านผู้ให้บริการ ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ และด้านกระบวนการบริการ

2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร

ภาพประกอบ 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย

สมมติฐานการวิจัย

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร

วิธีดำเนินการวิจัย

ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา

ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ ลูกค้าที่มาใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยพิจารณาจากสถิติการให้บริการระหว่างเดือนธันวาคม 2566 ถึงพฤศจิกายน 2567 พบว่า มีลูกค้าเฉลี่ยประมาณ 500 คนต่อเดือน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของ Yamane (1970) ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และค่าความคลาดเคลื่อน 0.05 ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 222 คน การสุ่มกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มแบบเป็นระบบ โดยเลือกจากผู้ใช้บริการทุก 5 คน ในแต่ละช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงกลางวัน (เวลา 10.00 น.) และช่วงกลางคืน (เวลา 18.00 น.) ดำเนินการสุ่มในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ถึงมกราคม 2568 จนครบตามจำนวนที่กำหนด การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการเข้าถึง ลดเวลาในการจัดการข้อมูล และลดค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูล

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

1. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ ใช้ทั้งข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูลทุติยภูมิ โดยข้อมูลปฐมภูมิได้จากแบบสอบถามออนไลน์ผ่าน Application Line จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 222 คน ที่มาใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดือนธันวาคม 2567 ถึงมกราคม 2568 ซึ่งแบบสอบถามพัฒนาจากแนวคิดส่วนประสมทางการตลาดบริการ 7 ด้านของพิมล เมฆสวัสดิ์ (2550, อ้างถึงในอิทธิพันธ์ จันทรสาคร, 2565) ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์บริการ ด้านราคาค่าบริการ  ด้านสถานที่บริการ ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ ด้านผู้ให้บริการ ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ และด้านกระบวนการบริการ ส่วนข้อมูลทุติยภูมิได้จากเอกสาร งานวิจัย วิทยานิพนธ์ และบทความที่เกี่ยวข้อง เมื่อรวบรวมข้อมูลแล้วได้ตรวจสอบความถูกต้อง ถอดรหัสลงแบบฟอร์ม และนำเข้าสู่โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อวิเคราะห์และอภิปรายผลการศึกษา

2. สถิติที่ใช้ในการวิจัย ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามจำนวน 222 ชุด ผู้วิจัยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติในการประมวลผล แบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ดังนี้

2.1 สถิติพรรณนา ใช้เพื่อวิเคราะห์ลักษณะส่วนบุคคล และพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่าง รวมถึงระดับความคิดเห็นต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ และความพึงพอใจในการใช้บริการ โดยใช้สถิติค่า ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ตารางที่ 1 ตารางเกณฑ์การแปลผลระดับค่าเฉลี่ย

ระดับความคิดเห็น / ความพึงพอใจคะแนน
เห็นด้วย / พึงพอใจ มากที่สุด4.21 – 5.00
เห็นด้วย / พึงพอใจ มาก3.41 – 4.20
เห็นด้วย / พึงพอใจ ปานกลาง2.61 – 3.40
เห็นด้วย / พึงพอใจ น้อย1.81 – 2.60
เห็นด้วย / พึงพอใจ น้อยที่สุด1.00 – 1.80

2.2 สถิติเชิงอนุมาน ใช้ทดสอบสมมติฐานของงานวิจัย โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ กับความพึงพอใจในการใช้บริการ โดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson Correlation Coefficient)

ตารางที่ 2 เกณฑ์การแปลความหมายค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Best, 1977)

ค่าสัมประสิทธิ์ (r)ระดับความสัมพันธ์
0.00 – 0.20มีความสัมพันธ์ในระดับ ต่ำมาก
0.21 – 0.50มีความสัมพันธ์ในระดับ ต่ำ
0.51 – 0.80มีความสัมพันธ์ในระดับ ปานกลาง
0.81 – 1.00มีความสัมพันธ์ในระดับ สูง

หมายเหตุ: ค่าสัมประสิทธิ์สามารถเป็นได้ทั้งบวก (แปรผันตรง) และลบ (แปรผกผัน)

3. การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม ผู้ศึกษาสร้างขึ้นจากการศึกษาทฤษฎีจากนักวิชาการ เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แบบสอบถามที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยนำไปทดลองใช้ (Try out) กับ ลูกค้าที่มาใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 และกลุ่มทดลองที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 ราย ได้ค่าความเชื่อมั่นของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ มีค่าเท่ากับ 0.829 ความพึงพอใจในการใช้บริการ มีค่าเท่ากับ 0.836 และแบบสอบถามทั้งฉบับมีค่าเท่ากับ 0.837

ผลการวิจัย

1. ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (M = 4.09, SD = 0.175) เมื่อพิจารณาแยกตามรายด้าน พบว่า ปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด คือ ด้านผู้ให้บริการ (M = 4.26, SD = 0.410) รองลงมา คือ ด้านผลิตภัณฑ์บริการ (M = 4.15, SD = 0.384) ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ (M = 4.09, SD = 0.422) ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ (M = 4.05, SD = 0.431) ด้านสถานที่บริการ (M = 4.03, SD = 0.422) ด้านราคาค่าบริการ (M = 4.03, SD = 0.362) และด้านกระบวนการบริการ (M = 4.02, SD = 0.350) ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนว่า ลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพของบุคลากร และผลิตภัณฑ์บริการเป็นหลักในการประเมินความพึงพอใจสำหรับผลการวิเคราะห์แยกรายด้าน สามารถอภิปรายได้ดังนี้

ตารางที่ 3 แสดงค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปัจจัยส่วนประสมทางการทางการตลาดบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร

ปัจจัยส่วนประสมทางการทางการตลาดบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานครMSDแปลผลลำดับ
1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์บริการ4.150.384มาก2
2. ปัจจัยด้านราคาค่าบริการ4.030.362มาก6
3. ปัจจัยด้านสถานที่บริการ4.030.394มาก5
4. ปัจจัยด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ4.090.422มาก3
5. ปัจจัยด้านผู้ให้บริการ4.260.410มากที่สุด1
6. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ4.050.431มาก4
7. ปัจจัยด้านกระบวนการบริการ4.020.350มาก7
โดยภาพรวม4.090.175มาก 

1.1 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านผลิตภัณฑ์บริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (M = 4.15, SD = 0.384) ซึ่งแสดงถึง ความพึงพอใจสูงในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการให้บริการ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ คุณพึงพอใจกับคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการบริการ เช่น น้ำมันหอมระเหย น้ำมันนวด เป็นต้น รองลงมา ได้แก่ คุณพึงพอใจกับคุณภาพและมาตรฐานการบริการที่ได้รับ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการนวด เช่น ผ้าปูที่นอน หมอน ลูกประคบ มีความสะอาด และโปรแกรมการให้บริการมีความหลากหลาย ตรงกับความต้องการของคุณ และสมุนไพร หรือลูกประคบที่ใช้ในการบริการ มีความสดใหม่ ตามลำดับ

1.2 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านราคาค่าบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (M = 4.03, SD = 0.362) ซึ่งสะท้อนถึงความพึงพอใจในด้านราคาของบริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ร้านมีการแจ้งอัตราค่าบริการอย่างชัดเจนก่อนเข้ารับบริการ รองลงมา ได้แก่ อัตราค่าบริการของร้านมีความเหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพการให้บริการ คุณพึงพอใจกับราคาค่าบริการของร้านในระดับใด อัตราค่าบริการของร้านเหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับร้านอื่นที่ให้บริการในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ และร้านมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น เงินสด บัตรเครดิต และการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน ตามลำดับ

1.3 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านสถานที่บริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (M = 4.03, SD = 0.394) ซึ่งสะท้อนถึงความพึงพอใจในสถานที่บริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ร้านมีที่จอดรถที่สะดวก ปลอดภัย และเพียงพอต่อความต้องการ รองลงมา ได้แก่ สถานที่ให้บริการมีความสะอาดและเป็นสัดส่วนเหมาะแก่การพักผ่อน ร้านมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม เช่น ที่นั่งคอยรับบริการ ห้องน้ำสำหรับลูกค้า และเครื่องดื่มบริการลูกค้า และบริการ Free Wi-Fi เป็นต้น ร้านตั้งอยู่ใกล้แหล่งขนส่งมวลชน แหล่งชุมชน หรือศูนย์กลางการค้า และร้านตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางไปมาสะดวก ตามลำดับ

1.4 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (M = 4.09, SD = 0.422) ซึ่งแสดงถึงความพึงพอใจในระดับที่สูงเกี่ยวกับการส่งเสริมบริการของร้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ร้านมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น Facebook และป้ายประกาศ รองลงมา ได้แก่ ร้านมีการมอบสิทธิประโยชน์แก่สมาชิก เช่น ส่วนลดพิเศษ หรือบริการเสริมในโอกาสพิเศษ ร้านมีการให้บริการแบบเหมาจ่าย เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อครั้งให้กับลูกค้า การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของร้านมีความน่าสนใจและครอบคลุมสื่อต่าง ๆ มากพอ และร้านมีการจัดโปรโมชั่นหรือให้ส่วนลดในช่วงเวลาที่กำหนด ตามลำดับ

1.5 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านผู้ให้บริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.26, SD = 0.410) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจที่สูงในด้านการบริการของพนักงาน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ พนักงานมีความสุภาพ มีจิตใจบริการ และมีความเอาใจใส่ต่อลูกค้า รองลงมา ได้แก่ พนักงานมีความรู้ ความชำนาญและผ่านการรับรองมาตรฐานในด้านการนวด พนักงานมีบุคลิกภาพที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พนักงานมีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจนและเข้าใจ และพนักงานแต่งกายสะอาด สุภาพเรียบร้อย และเหมาะสมกับการให้บริการ ตามลำดับ

1.6 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (M = 4.05, SD = 0.431) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สภาพแวดล้อมของการบริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพได้รับการประเมินในระดับที่ดีจากลูกค้า เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ การตกแต่ง และบรรยากาศภายในร้านเหมาะสม และสร้างความผ่อนคลาย รองลงมา ได้แก่ ร้านมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ความสะอาดและการจัดเรียงของเครื่องใช้ภายในร้านเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องนวดมีขนาด และความสะดวกสบายเหมาะสม และสถานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ เช่น ที่จอดรถ อากาศ อุณหภูมิ และแสงสว่าง เป็นต้น ตามลำดับ

1.7 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านกระบวนการบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (M = 4.02, SD = 0.350) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โดยรวมกระบวนการบริการของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานครได้รับการประเมินในระดับที่ดีจากลูกค้า เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ มีการแจ้งราคาการบริการชัดเจนก่อนการใช้บริการ รองลงมา ได้แก่ การบริการมีความสะดวก รวดเร็วและมีความชัดเจนในขั้นตอน การให้บริการมีมาตรฐานและเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดทุกครั้ง ความหลากหลายของบริการและระยะเวลาในการให้บริการเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมีการแนะนำประเภทและประโยชน์ของการนวดเพื่อสุขภาพอย่างเหมาะสม ตามลำดับ

2. ความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.35, SD = 0.515) ซึ่งหมายความว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจสูงในการใช้บริการของร้าน โดยค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ที่ต่ำแสดงให้เห็นว่า ความพึงพอใจของลูกค้าโดยรวมมีความสอดคล้องกันในระดับที่สูง

3. ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร โดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = −0.191, p < 0.01) สะท้อนว่าปัจจัยด้านการตลาดมีผลต่อระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์บริการ มีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับต่ำกับความพึงพอใจ (r = 0.215, p < 0.01) ด้านราคาค่าบริการ ไม่มีความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -0.100, p > 0.05) สถานที่บริการ ไม่พบความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -0.090, p > 0.05) การส่งเสริมแนะนำบริการ พบความสัมพันธ์เชิงลบในระดับปานกลาง (r = -0.378, p < 0.01) ผู้ให้บริการ มีความสัมพันธ์เชิงลบในระดับต่ำ (r = -0.236, p < 0.01) สภาพแวดล้อมของการบริการ มีความสัมพันธ์เชิงลบในระดับต่ำ (r = -0.146, p < 0.05) กระบวนการบริการ มีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับต่ำ (r = 0.211, p < 0.01) สรุปได้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการส่งเสริม ด้านผู้ให้บริการ ด้านสภาพแวดล้อม และด้านกระบวนการบริการ ขณะที่ด้านราคาและสถานที่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับความพึงพอใจในการใช้บริการ

ตารางที่ 4 สรุปผลการทดสอบสมมติฐานความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการกับความพึงพอใจในการใช้บริการ

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r)ค่า pผลการทดสอบสมมติฐาน
ด้านผลิตภัณฑ์บริการ0.215< 0.01ยอมรับสมมติฐาน
ราคาค่าบริการ-0.100> 0.05ปฏิเสธสมมติฐาน
สถานที่บริการ-0.090> 0.05ปฏิเสธสมมติฐาน
การส่งเสริมแนะนำบริการ-0.378< 0.01ยอมรับสมมติฐาน
ผู้ให้บริการ-0.236< 0.01ยอมรับสมมติฐาน
สภาพแวดล้อมของการบริการ-0.146< 0.05ยอมรับสมมติฐาน
กระบวนการบริการ0.211< 0.01ยอมรับสมมติฐาน
รวมทุกด้าน0.191< 0.01ยอมรับสมมติฐาน

อภิปรายผล

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ โดยรวมส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ ด้านผู้ให้บริการ ด้านกระบวนการบริการ และด้านผลิตภัณฑ์บริการ ที่ส่งผลต่อความพึงพอใจ ในระดับนัยสำคัญอย่างชัดเจน ขณะที่ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านราคาและสถานที่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม ความพึงพอใจของลูกค้าร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพสูงสุดเกิดจากคุณภาพของผู้ให้บริการที่สุภาพ เอาใจใส่ และมีความชำนาญ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ศิริ พันธ์ทา (2562) และผลการศึกษาของ ราหุลทัต (2567) สุกัญญา แก้วเมืองมูล (2562) และรัตวัน เชาวน์ดี (2564) ที่ยืนยันว่า ปัจจัยด้านบุคลากรเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและความประทับใจในบริการ ด้านผลิตภัณฑ์ ลูกค้าพึงพอใจต่อคุณภาพ ความสะอาด และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันหอมระเหยและสมุนไพร ซึ่งสอดคล้องกับงานของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) และ ปภัสสร นิลวงค์ (2565) ที่พบว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและเป็นธรรมชาติมีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ การส่งเสริมบริการ เช่น โปรโมชั่นและการประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook และป้ายหน้าร้าน ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และจูงใจให้เกิดการใช้บริการซ้ำ ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ อุมาพร ศรีอุ่นลี และวัชระ ยี่สุ่นเทศ (2562) และ นิดานุช ราหุลทัต (2567) ที่ระบุว่า การสื่อสารทางการตลาดผ่านสื่อออนไลน์มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างชัดเจน กระบวนการบริการที่ชัดเจน เช่น การแจ้งราคาก่อนใช้บริการ การดำเนินการตามขั้นตอนที่มาตรฐาน และความรวดเร็ว สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น ซึ่งตรงกับงานของ ไพโรจน์ สมศรี (2564) และ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ด้านสถานที่และราคา แม้ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ลูกค้ายังให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเดินทาง การมีที่จอดรถ และราคาที่โปร่งใส ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรรักษาไว้ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการมีบทบาทสำคัญในการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านคุณภาพบริการ การประชาสัมพันธ์ ความเป็นมืออาชีพของพนักงาน และบรรยากาศร้าน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ วิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์ (2563) และนิดานุช ราหุลทัต (2567) ที่ยืนยันว่า 7Ps มีผลต่อการตัดสินใจและความพึงพอใจของลูกค้าในบริการสุขภาพและสปาอย่างชัดเจน ดังนั้น การพัฒนาทุกองค์ประกอบอย่างสมดุลและต่อเนื่อง คือ หัวใจของความสำเร็จในการสร้างความภักดีและความยั่งยืนของธุรกิจ

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านผลิตภัณฑ์บริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์บริการส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยลูกค้าพึงพอใจในคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เช่น น้ำมันหอมระเหย สมุนไพร และลูกประคบ รวมถึงความสะอาดของวัสดุอุปกรณ์และความเหมาะสมของโปรแกรมบริการ เช่น นวดไทย นวดออย และการนวดเพื่อสุขภาพเฉพาะทาง ซึ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ออฟฟิศซินโดรม ได้เป็นอย่างดี ประเด็นสำคัญของผลการศึกษานี้ คือ การให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หลากหลาย และเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจกลับมาใช้บริการซ้ำ และสร้างความภักดีต่อร้าน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของวิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์ (2563) ที่พบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการนวดแผนไทยของผู้บริโภคในจังหวัดสิงห์บุรี เช่นเดียวกับรัตวัน เชาวน์ดี (2564) ที่ระบุว่า ด้านผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกใช้บริการร้านนวดแผนไทยในจังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ยังพบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในอำเภอเมืองสุรินทร์ ขณะที่นิดานุช ราหุลทัต (2567) ระบุว่า ด้านผลิตภัณฑ์มีผลต่อความพึงพอใจในคุณภาพการบริการของผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทยในเขตพญาไทและราชเทวี กรุงเทพมหานคร สรุปได้ว่า ผลิตภัณฑ์บริการที่มีคุณภาพ ความสะอาด และความหลากหลายที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุม เป็นหัวใจสำคัญที่ส่งเสริมความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าในธุรกิจบริการด้านสุขภาพ

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านราคาค่าบริการ ไม่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยด้านราคาค่าบริการไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ต่อความพึงพอใจของลูกค้า สะท้อนว่า ผู้ใช้บริการให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการมากกว่าราคา แม้ราคาที่โปร่งใสและเหมาะสมอาจมีผลต่อความรู้สึกคุ้มค่า แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจ โดยลูกค้าพร้อมจ่ายหากมั่นใจว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการ และมีประสบการณ์การนวดที่ดี ประเด็นสำคัญ คือ ลูกค้าประเมิน “คุณค่า” ที่ได้รับ มากกว่าการเปรียบเทียบ “ราคา” กับคู่แข่ง โดยเฉพาะในธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพที่ลูกค้าเน้นการดูแลจากพนักงาน ความผ่อนคลาย และบรรยากาศมากกว่าความประหยัด ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับงานวิจัยของ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ซึ่งพบว่า ราคาค่าบริการไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการนวดแผนไทยในอำเภอเมืองสุรินทร์ และงานวิจัยของ นิดานุช ราหุลทัต (2567) ซึ่งระบุว่า ปัจจัยด้านราคาไม่มีผลต่อคุณภาพการบริการในมุมมองของผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทยในเขตพญาไท และเขตราชเทวี สรุปได้ว่า ราคาค่าบริการไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดในการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าในบริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ แต่องค์ประกอบด้านคุณภาพ ประสบการณ์การใช้บริการ และการดูแลเอาใจใส่จากพนักงาน เป็นปัจจัยที่สำคัญกว่าในการสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีในระยะยาว

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านสถานที่บริการ ไม่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยด้านสถานที่บริการไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ต่อความพึงพอใจของลูกค้า แสดงว่า ลูกค้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งหรือสิ่งอำนวยความสะดวกในร้านเป็นหลัก หากแต่ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์บริการ” ที่ได้รับ เช่น ความเชี่ยวชาญของพนักงาน ความเอาใจใส่ และคุณภาพของการนวด มากกว่าสถานที่หรือการเดินทางที่สะดวก แม้ร้านจะมีที่จอดรถ หรืออยู่ในทำเลดี แต่หากบริการไม่ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด ก็ไม่สามารถสร้างความพึงพอใจได้อย่างแท้จริง ดังนั้น “สถานที่” จึงถูกมองว่า เป็นเพียงเงื่อนไขพื้นฐาน มากกว่าปัจจัยสร้างความประทับใจ ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับ ศมน พรหมหิตาทร (2560) ที่พบว่า ปัจจัยด้านสถานที่ไม่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการสปาประเภท Day Spa ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจาก สถานที่ส่วนใหญ่มีความสะดวกอยู่แล้ว และลูกค้าให้ความสำคัญกับการบริการมากกว่า ข้อมูลนี้ ยังสอดคล้องกับ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่ศึกษาผู้ใช้บริการในอำเภอเมืองสุรินทร์ และพบว่า ปัจจัยด้านสถานที่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการนวดแผนไทยอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน สรุปได้ว่า สถานที่บริการเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ควรมี แต่ไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนหลักในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ลูกค้าจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของบริการและประสบการณ์ที่ได้รับมากกว่า ทำให้ร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ ควรมุ่งพัฒนาคุณภาพบริการและบุคลากร มากกว่าการเน้นที่ทำเลเพียงอย่างเดียว

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจ ของลูกค้าในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่ม 7Ps ผลการศึกษา พบว่า กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดของร้าน เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook และป้ายโฆษณา มีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้ และกระตุ้นความสนใจของลูกค้า การจัดโปรโมชั่น เช่น สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก Linda Member ได้แก่ การนวดฟรี บริการเสริม หรือแพ็กเกจราคาพิเศษ ช่วยสร้างความคุ้มค่าในการใช้บริการ ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ และเพิ่มความภักดีต่อร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การแนะนำบริการเพิ่มเติม เช่น บริการเหมาจ่าย การนวดออฟฟิศซินโดรม หรือนวดไทยออย ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบริการ และตรงกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับงานของ วิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์ (2563) ที่พบว่า ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริการนวดแผนไทยของผู้บริโภค รัตวัน เชาวน์ดี (2564) ที่ระบุว่า ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดมีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการในระดับมาก และนิดานุช ราหุลทัต (2567) พบว่า การสนับสนุนการตลาดมีผลต่อคุณภาพการบริการของผู้ใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ สรุปได้ว่า ปัจจัยด้านการส่งเสริมแนะนำบริการ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า ร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ ควรต่อยอดจุดแข็งนี้ ด้วยการใช้สื่อหลากหลาย พัฒนาโปรโมชั่นอย่างสม่ำเสมอ และให้สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ เพื่อสร้างความแตกต่างและความยั่งยืนทางการตลาด

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านผู้ให้บริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า “พนักงาน” เป็นปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะด้านความสุภาพ จิตใจบริการ และความเอาใจใส่ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจให้แก่ลูกค้า คุณสมบัติอื่นที่ได้รับการประเมินในระดับสูง ได้แก่ ความรู้และความชำนาญที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) บุคลิกภาพที่ดี ทักษะการสื่อสารที่เข้าใจง่าย และการแต่งกายที่เหมาะสม ร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ มีพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร 150 ชั่วโมง และมีประสบการณ์เฉลี่ยมากกว่า 6 ปี ซึ่งทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ไว้วางใจจนถึงขั้นจองพนักงานล่วงหน้า ทั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า “คุณภาพของผู้ให้บริการ” คือ หัวใจหลักที่สร้างความพึงพอใจและภักดีในระยะยาว ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับงานของ วิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์ (2563) ที่พบว่า ด้านบุคลากรมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริการนวดแผนไทยของผู้บริโภค รัตวัน เชาวน์ดี (2564) ที่พบว่า ปัจจัยด้านบุคลากรมีผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในระดับมาก และนิดานุช ราหุลทัต (2567) ระบุว่า บุคลากรที่มีความรู้ มีจิตใจบริการ และมาตรฐานวิชาชีพ มีผลต่อคุณภาพการบริการอย่างมีนัยสำคัญสรุปได้ว่า ด้านผู้ให้บริการถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในความพึงพอใจของลูกค้า พนักงานที่มีทักษะ ความสุภาพ และมาตรฐานวิชาชีพช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี สร้างความไว้วางใจ และกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง ร้านควรพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดบริการสุขภาพ

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านสภาพแวดล้อมของการบริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า บรรยากาศร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ มีบทบาทสำคัญในการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า โดยเฉพาะการตกแต่งร้านที่เหมาะสม ความเงียบสงบ ความสะอาด ความเป็นส่วนตัว และขนาดห้องนวดที่พอดี ล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าใช้บริการ นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งในเมืองทองธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีระบบขนส่งหลากหลาย และมีที่จอดรถเพียงพอโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการ และยกระดับประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า สอดคล้องกับผลการศึกษาของ วิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์ (2563) พบว่า ปัจจัยสิ่งแวดล้อมทางกายภาพส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการนวดแผนไทย รัตวัน เชาวน์ดี (2564) ระบุว่า สิ่งแวดล้อมและกระบวนการบริการมีผลต่อความพึงพอใจอย่างมีนัยสำคัญ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) พบว่า การนำเสนอทางกายภาพมีผลต่อการเลือกใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ และนิดานุช ราหุลทัต (2567) ยืนยันว่า ลักษณะทางกายภาพ เช่น ความสะอาด ความปลอดภัย และบรรยากาศร้าน ส่งผลต่อคุณภาพการบริการ สรุปได้ว่า สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทั้งในด้านบรรยากาศ ความสะอาด และความสะดวกในการเข้าถึง เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความพึงพอใจ ความประทับใจ และความไว้วางใจของลูกค้า ส่งผลต่อการกลับมาใช้บริการซ้ำ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพในระยะยาว

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ด้านกระบวนการบริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ผลการศึกษา พบว่า ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจต่อกระบวนการให้บริการที่เป็นระบบ ชัดเจน และโปร่งใส โดยเฉพาะการแจ้งราคาก่อนใช้บริการ การให้บริการที่ตรงต่อเวลา และการปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด เช่น การมีเครื่องดื่มต้อนรับ การล้างเท้า ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เป็นส่วนตัว ตลอดจนการแนะนำบริการที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพเฉพาะ เช่น อาการออฟฟิศซินโดรม ล้วนส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างใส่ใจและมีคุณภาพ นอกจากนี้ การให้บริการตรงเวลาและมีการแถมเวลาเพิ่ม 5 – 10 นาที ยังสะท้อนถึงความตั้งใจในการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยรวมแล้ว กระบวนการบริการที่เป็นระบบและใส่ใจในรายละเอียดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น และความพึงพอใจ ซึ่งนำไปสู่การกลับมาใช้บริการซ้ำ ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับงานวิจัยของ วิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์ (2563) ที่พบว่า กระบวนการให้บริการมีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการนวดแผนไทย รัตวัน เชาวน์ดี (2564) ที่ระบุว่ากระบวนการให้บริการส่งผลต่อความพึงพอใจอย่างมีนัยสำคัญ ณัฐกานต์ มีพัฒน์ (2565) ที่ชี้ว่า กระบวนการบริการมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ และนิดานุช ราหุลทัต (2567) ที่พบว่า กระบวนการบริการมีผลต่อคุณภาพการบริการของผู้ใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ สรุปได้ว่า กระบวนการบริการที่มีมาตรฐาน ใส่ใจในรายละเอียด และตอบโจทย์ลูกค้าอย่างตรงจุด เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าต่อร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ในระยะยาว

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะจากการศึกษา

จากผลการศึกษาผู้ศึกษาขอเสนอแนะว่า ร้านลินดา นวดเพื่อสุขภาพ ควรพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเพิ่มความหลากหลายของบริการ ควบคุมคุณภาพและความสะอาดอย่างต่อเนื่อง และประชาสัมพันธ์มาตรฐานบริการเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ในด้านราคา ควรรักษาความโปร่งใส อัปเดตราคา และพัฒนาช่องทางชำระเงินดิจิทัล เช่น TrueMoney Wallet ด้านสถานที่ ควรรักษาความสะอาด เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะกลุ่ม เช่น ที่จอดรถผู้สูงอายุ และสื่อสารทำเลให้โดดเด่น ด้านการส่งเสริมบริการ ควรขยายช่องทางออนไลน์ เช่น Instagram และ TikTok พัฒนาระบบสมาชิกและโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่ม ด้านผู้ให้บริการ ควรอบรมพนักงานต่อเนื่อง ส่งเสริมแรงจูงใจ และพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ด้านสภาพแวดล้อม ควรตกแต่งให้ทันสมัย ใช้เสียงและกลิ่นเพื่อความผ่อนคลาย และสุดท้าย ด้านกระบวนการบริการ ควรเสริมทักษะพนักงานในการอธิบายขั้นตอน และพัฒนาระบบจองออนไลน์ให้สะดวก เพื่อเสริมประสบการณ์บริการที่ครบถ้วนและสอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้า ทั้งนี้ ทุกข้อเสนอแนะสอดคล้องกับประเด็นสำคัญของการศึกษาที่พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการส่งผลต่อความพึงพอใจอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะด้านผู้ให้บริการ การส่งเสริมบริการ กระบวนการ และผลิตภัณฑ์

ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป

1. การศึกษาความพึงพอใจในระดับบริการเฉพาะ ควรมีการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับความพึงพอใจของลูกค้าในแต่ละบริการเฉพาะ เช่น การนวดแผนไทย นวดน้ำมัน หรือการนวดเพื่อบำบัดสุขภาพ เพื่อวิเคราะห์ว่า ลูกค้าคาดหวังอะไรจากบริการแต่ละประเภท และสามารถปรับปรุงให้ตรงกับความต้องการเฉพาะกลุ่มได้มากขึ้น

2. การสำรวจปัจจัยที่มีผลต่อการกลับมาใช้บริการซ้ำ ควรทำการศึกษาปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ เช่น การให้บริการที่มีคุณภาพ การดูแลเอาใจใส่จากพนักงาน หรือโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อสามารถพัฒนาแผนกลยุทธ์ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าประจำได้มากขึ้น

3. การศึกษาผลกระทบของการฝึกอบรมพนักงานต่อการพัฒนาคุณภาพการบริการ ควรทำการวิจัยในเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบของการฝึกอบรมพนักงานในด้านการนวดและการบริการต่อความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อให้ร้านสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการและมาตรฐานการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงจาก

ชนิกานต์ ตรีวัย และคณะ. (2563). ตัวแบบสมการโครงสร้างของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้บริการสปาของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 10(1), 255-267.

ฐิติพงษ์ โพธิพิพิธ และอรชร มณีสงฆ์ (2559) ความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อส่วนประสมทางการตลาดของร้านนวดแสนสบาย.วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2(1).

ณัฐกานต์ มีพัฒน์. (2565). ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการนวดแผนไทยของประชาชนในอำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. สุรินทร์: มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยาเขตสุรินทร์.

นิดานุช ราหุลทัต. (2567). ปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในคุณภาพการบริการของผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทย ในเขตพญาไท และเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

นภาพร จึงตระกูล. (2557). การศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการนวดแผนไทยในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มข, 7(57), 110-124.

น้ำฝน สะละโกสา. (2560, 22 ธันวาคม). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการนวดแผนไทยของผู้ใช้บริการในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 4. กำแพงเพชร: สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.

ปภัสสร นิลวงค์. (2565). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดกับพฤติกรรมการใช้บริการนวดแผนไทยในจังหวัดกรุงเทพมหานคร. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. สุรินทร์: มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยาเขตสุรินทร์.

มนัสนันท์ เม่งก่วง และธิดาสวรรค์ อินสูนย์. (2565). การจัดโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มยอดขายและความพึงพอใจของลูกค้าโรงแรมฮิลตัน หัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล, 8(1), 58-68.

รัตวัน เชาวน์ดี. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทย ตำบลป่าตาล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ละอองทราย โกมลมาลย์. (2556). ปัจจัยที่มีอิทธิพลเชิงบวกต่อความพึงพอใจของลูกค้าผู้ใช้บริการ สปาในเขตคลองสาน จังหวัดกรุงเทพมหานคร. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

ลินจง โพชารี. (2560). ความพึงพอใจต่อการใช้บริการนวดแผนไทยในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 8(1).

วิรัลรัตน์ หิรัญญาภรณ์. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการนวดแผนไทยของผู้บริโภคในจังหวัดสิงห์บุรี. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม. (2567). รายงานผลการสำรวจ ความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อการให้บริการขององค์การบริหารส่วนตำบลชำผักแพว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี. ประจำปีงบประมาณ 2567. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ศมน พรหมหิตาทร. (2560) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการสปาเพื่อสุขภาพ ประเภท Day spa ของผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศิริ พันธ์ทา. (2562). การสร้างความพึงพอใจต่อการให้บริการในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมปัจจุบัน. Journal of Modern Learning Development, 4(2), 32-47.

สุกัญญา แก้วเมืองมูล. (2562, 19 มกราคม). ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการร้านนวดไทย ร้าน Go Inter ของนักท่องเที่ยวชาวไทย. การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติของนักศึกษาด้านมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

อิทธิพัทธ์ จันทร์สาคร. (2565). การศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่มีต่อระบบสาธารณูปโภคภายในอาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

อุมาพร ศรีอุ่นลี และวัชระ ยี่สุ่นเทศ. (2562). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้บริการสปาในโรงแรมคอลัมแบงค๊อกกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล, 5(2),70.

Best, J. W. (1977). Research in Education. (3rd ed). New Jersey : Prentice Hall.

Taro Yamane. (1970). Statistic: An Introductory Analysis. (2nd ed.). New York: Harper & Row.

ไทยโพสต์. (2567). เผยรัฐบาลผลักดัน นวดไทย-อาหารไทย-สมุนไพรไทยเป็น Soft Power. https://www.thaipost.net/news-update/573160/

ไพโรจน์ สมศรี. (2564). การเปรียบเทียบความพึงพอใจในการใช้บริการสปาในเขตอำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรีของนักท่องเที่ยวชาวไทยกับผู้อาศัยในท้องถิ่น. http://www.northbkk.ac.th/gs/thesis/researchpaper/481300615.pdf

Bangkokbiznews. (2567, 10 มิถุนายน). สธ.นำร่อง 4 จังหวัด อัปเลเวล “หมอนวด” สร้างมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท. https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1130700

SCB EIC Health & Wellness survey. (2566). เจาะลึกเทรนด์สุขภาพเวลเนสชาวไทย โอกาสในธุรกิจมาแรง. https://www.scbeic.com/th/detail/file/product/9358/grv0pcp0jg/In-focus-Health-and-wellness-survey-2023.pdf

ข่าวสาร

ข่าวสาร

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผศ.ดร.ธนชาติ ประทุมสวัสดิ์ ประธานและผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาเกริก #สาขาวิชาการจัดการองค์การยุคใหม่และ#สาขาวิชาการบริหารการค้าและการเมืองอย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่ นำคณะอาจารย์และนักศึกษาปริญญาเอก ไป #ศึกษาดูงานและนำเสนอผลงานทาวิชาการ ณ #มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

สมัครเรียนปริญญาโท สมัครเรียนปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกริก
สมัครเรียนปริญญาโท สมัครเรียนปริญญาเอก สาขาการจัดการองค์การยุคใหม่ M.O.M สาขาการบริหารการค้าและการเมือง อย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่ TPS หลักสูตรได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สปอว.) เป็นไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา (Thai Qualification Framework: TQF)